บทความนี้จะเป็นการสอนการติดตั้ง Jenkins CI บน CentOS ภาคต่อจาก เข้าใช้งาน Virtualbox ผ่าน SSH โดยการใช้ Public Key และ การสร้าง Git Server บนเครื่อง Virtualbox (CentOS) ที่ได้เตรียมไว้ เพื่อใช้ฝึกการใช้งาน Jenkins CI นั่นเอง
วันนี้นั่งๆ ดู facebook page ของบล็อกรู้สึกว่าต้องมีการปรับปรุงรูปที่ดึงมาแสดงตอนกดแชร์ลิงค์ เพราะตอนนี้เลือกเอา logo ของบล็อกรูปเดียวเลย มองดูแล้วมันดูไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ ก็เลยเปลี่ยนเป็นดึงเอา thumbnail มาแสดงดีกว่า หลากหลายดี ^^
หลังจากได้เตรียมเครื่อง Virtualbox ไว้แล้ว (เข้าใช้งาน Virtualbox ผ่าน SSH โดยการใช้ Public Key) ในบทความนี้ก็มาต่อด้วยการ setup git server บนเครื่อง Virtualbox กันดีกว่า (มาเป็นซีรี่ย์เลย ^^) โดยเราจะเริ่มจากการสร้าง repository ไว้ที่เครื่อง vm ครับ
หาอะไรทำเล่นตามประสาคนว่าง ฮ่าๆๆ วันนี้ก็เลยหาวิธีใช้ ssh เข้าไปที่ Virtualbox (CentOS) ด้วย Public key ซึ่งข้อดีก็คือ ไม่ต้องพิมพ์พาสเวิร์ดอยู่เรื่อยๆ จริงๆ แล้วอยากจะลองติดตั้ง git server ไว้ที่ Vitualbox เพื่อจะลองใช้ Jenkins CI ดูครับ แต่ก่อนอื่น ก็ทำให้ล็อกอินด้วย public key ก่อนก็แล้วกันครับ
เห็นหัวข้อแล้วอาจจะคิดว่าไอ้นี่บ้าไปแล้วรึป่าว ฮ่าๆๆ ไม่บ้าก็ใกล้ล่ะครับ ^^ สำหรับเพื่อนๆ ที่ใช้ javascript ในการทำ animation หรือให้ทำงานเป็นลูปตามเวลาที่กำหนด ส่วนใหญ่แล้วอาจจะใช้ฟังก์ชัน setInterval() หรือ setTimeout() แต่สำหรับใครที่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดปัญหาโลกร้อนต้องหันมาใช้ requestAnimationFrame กันครับ ^^
สำหรับใครที่ต้องการใช้งานหลายๆ OS บนเครื่องเดียวคงไม่มีใครไม่รู้จัก Virtual Boxes ผมเองก็เป็นสาวกของ Virtual Boxes คนนึงเหมือนกันครับ ^^ เอามาใช้ติดตั้งเซิฟเวอร์ต่างๆ เช่น Apache, MySQL, Solr, MongoDB ก็ว่ากันไป เพราะไม่อยากให้มันรกเครื่อง ถ้าเกิดอยากลบก็ลบ VMs ออกไปเลย และอีกอย่างติดตั้งง่าย ประมาณว่ายำ (yum) กันเละเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ